มารู้จัก Condom กันเถอะ

มารู้จัก Condom กันเถอะ

อัตราการมีเพศสัมพันธุ์ของวัยรุ่นไทย มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ แนวโน้มในปัจจุบัน วัยรุ่นอายุประมาณ 14 ปี เริ่มมีเพศสัมพันธุ์กันแล้ว พบปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่น ปัญหาการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ในวัยรุ่น ปัญหาการติดเชื้อจากการทำแท้งในวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น

ในประเทศไทย วัยรุ่น(อายุต่ำกว่า 20 ปี) ตั้งครรภ์ประมาณ 20 - 30% ของหญิงไทยที่ตั้งครรภ์ทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์สูงถึง 80% นำไปสู่การทำแท้ง และติดเชื้อโรคจากการทำแท้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าใจหายมาก

คนไทยส่วนมาก อายกับการเดินเข้าไปซื้อถุงยางอนามัย กลัวต่อสายตาของคนอื่นว่าจะมองเป็นคนไม่ดี สำส่อน เซ็กซ์จัด แต่เรื่องแบบนี้ ไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หากมัวแต่กลัวจนไม่กล้าซื้อ ความกลัวนั้น อาจนำมาซึ่งปัญหามากมาย

สโลแกนรัฐบาล "ยืดอกพกถุง" ออกมาเพื่อสร้างกระแสให้คนไทย(โดยเฉพาะวัยรุ่น) หันมาใช้ถุงยางอนามัย (Condom) กัน เพื่อป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และควบคุมการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

เรามาทำความรู้จักกับ Condom กันเถอะ

Condom หรือ ถุงยางอนามัย คือ อุปกรณ์ป้องกันการตั้งครรภ์ และป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน ซิฟิลิส และเอดส์ เป็นต้น

ประโยชน์ : สวมใส่เมื่อต้องการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ และป้องกันการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือใช้เพื่อเป็นวัสดุกันน้ำ เช่น นักวิทยาศาสตร์นำตัวอย่างดินเก็บไว้ในถุงยาง เพื่อป้องกันไม่ให้ดินเปียกชื้น นักค้ายาเสพย์ติดนำถุงยางบรรจุเฮโรอีนแล้วกลืนกินลงท้อง เป็นต้น (กรุณานำไปใช้อย่างสร้างสรรค์)

วัสดุที่ใช้ผลิต : ปัจจุบัน ถุงยางอนามัยชายส่วนใหญ่ ผลิตจากยาง latex (ยางพารา) ถุงยางอนามัยหญิง ผลิตจากโพลียูรีเทน

วิธีใช้ :

ชาย --> สวมใส่องคชาติขณะแข็งตัว
หญิง --> สอดใส่ในช่องคลอด

อัตราความเสี่ยง :

- ถุงยางอนามัยชาย หากใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม อัตราความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มีเพียง 2 % ต่อปี แต่จากการใช้โดยทั่วไป(อาจจะไม่ค่อยถูกต้องนัก) จะเสี่ยงถึง 10 - 18 % ต่อปี

- ถุงยางอนามัยหญิง หากใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม อัตราความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มีเพียง 5 % ต่อปี แต่จากการใช้โดยทั่วไป(อาจจะไม่ค่อยถูกต้องนัก) จะเสี่ยงถึง 21 % ต่อปี

ถุงยางอนามัยชายปลอดภัยกว่า ใช้ง่ายกว่า หาซื้อง่ายกว่า ราคาถูกกว่า

ข้อควรระวัง :

1. ถุงยางชาย ส่วนใหญ่ผลิตจาก latex ต้องใช้สารหล่อลื่นสูตรน้ำ เพราะสูตรน้ำมันจะไปทำลายถุงยางที่ผลิตจาก latex

2. ถุงยางชายอาจลื่นหลุดได้หลังการหลั่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ ในบางรายหลุดเข้าไปในช่องคลอด จนทำให้ช่องคลอดอักเสบ ติดเชื้อ

3. ถุงยางใหญ่ไป หรือเล็กไป อาจทำให้ถุงยางแตก หรือหลุดได้

4. การซ้อนถุง(สวมถุงสองชั้น) จะทำให้ถุงยางแตกรั่วได้ง่ายขึ้น

5. ถุงยางอาจขาดหรือรั่ว จากการฉีกซอง

6. ถุงยางที่เก็บในที่ร้อนจัด เย็นจัด จะเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดรอยรั่วที่มองไม่เห็น หรือฉีกขาดได้

7. กรุณาดูวันหมดอายุก่อนใช้

เกร็ดน่ารู้ :

- ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ใช้ถุงยางมากที่สุดในโลก

- ถุงยางหนา หรือบาง ไม่มีผลต่อการแตกยาก หรือง่ายเลย

- มีถุงยางชนิดเพิ่มลอน เพิ่มปุ่มเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับอรรถรสเหมือนไม่ใส่ หรือดีกว่านั้น !

- ถุงยางไม่น่าเบื่อ เพราะมีให้เลือกหลายแบบ หลายทรง หลายสี หลายกลิ่น ผิวเรียบ ผิวไม่เรียบ

รู้อย่างนี้แล้ว รีบไปหาซื้อถุงยางกันเถอะ...