Sunday, August 29, 2010

รู้ทันมิจฉาชีพ ตอนที่ 3 ท่านคือผู้โชคดี !!

ช่วงนี้ มิจฉาชีพออกอาละวาดกันอีกแล้ว งานดีๆ ไม่ชอบทำกันค่ะ ไรสังคมพวกนี้ชอบหาเงินบนความทุกข์ยากของผู้อื่น และส่วนมาก จับตัวผู้กระทำความผิดไม่ได้เสียด้วย พวกเราชาวสุจริตชนจึงต้องระมัดระวังรักษาทรัพย์กันเอาเองค่ะ

กระแสบอลโลกที่ผ่านมาแรงมากค่ะ ทำให้เกิดกลุ่มมิจฉาชีพออกมาแจกรางวัลกันเต็มไปหมด สำหรับวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้โชคดี ที่ได้รับรางวัลจากการชิงโชค หรือทายผลบอล หรือจากการสุ่มแจกรางวัล หรือแม้แต่จากการสุ่มหยิบจากไปรษณียบัตรที่ไม่ได้รับรางวัลจากการทายผลบอล เป็นต้น

โดยกลุ่มมิจฉาชีพ จะโทรศัพท์มายังท่านและอ้างว่าเป็นบริษัทใหญ่ที่ชื่อคุ้นหูกันดี เช่น กระทิงแดง หรือมาม่า เป็นต้น และแจ้งว่า ท่านเป็นผู้โชคดี

มีคนขับรถแท็กซี่ท่านหนึ่ง ได้รับโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์เคลื่อนที่(มือถือ)ของเขา และได้รับแจ้งว่า กระทิงแดงแจกโชคให้กับผู้ขับรถแท็กซี่ โดยให้แท็กซี่ป้ายแดงใหม่เอี่ยมอ่อง 1 คัน ให้เขาไปรับรางวัลได้ที่เซ็นทรัลบางนา แต่เขาจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายก่อน 5% จากมูลค่ารถ

กลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างตนว่าเป็นบริษัทกระทิงแดง จะบอกเลขที่บัญชี ให้โอนเงินค่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายในชื่อบุคคลธรรมดา แถมด้วยการอำนวยความสะดวกว่า สามารถโอนผ่าน ATM ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และให้เหตุผลที่ดูเหมือนจะน่าเชื่อถือว่า เมื่อชำระค่าภาษีทางตู้ ATM แล้ว ให้นำสลิปมาที่เซ็นทรัลบางนา เพื่อขอรับรางวับได้ทันที

อีกท่านหนึ่ง ได้รับโทรศัพท์แจกทองจากการทายผลบอล และให้ชำระค่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายก่อนอีกเช่นกัน

ข้อควรสังเกต
1. ท่านจะเป็นผู้โชคดี (ที่โดนหลอก)
2. จะได้รับรางวัลจากการชิงโชค หรือทายผล หรืออะไรสักอย่าง ส่วนมากจะเป็นรถยนต์ และสร้อยคอทองคำ
3. หากท่านสงสัยว่ารางวัลจากที่ไหน อย่างไร มิจฉาชีพจะแก้ตัวว่า เป็นพนักงานที่ได้รับมอบหมายให้ติดต่อกับผู้โชคดีเท่านั้น รายละเอียดไม่ทราบ หรืออาจย้อนถามท่านว่า ท่านได้เคยชิงรางวัล หรือทายผลบ้างไหม หรืออาจจะมีใครส่งชื่อท่านมาก็ได้
4. มิจฉาชีพจะให้ท่านโอนเงินค่าภาษีก่อน โดยบัญชีที่ท่านต้องโอน มักเป็นชื่อบุคคลธรรมดา
5. มิจฉาชีพ มักให้ท่านโอนผ่านตู้ ATM และใช้ความรวดเร็วในการบอกให้ท่านกดปุ่มโน้นนี้ เพื่อโอนเงิน มิจฉาชีพไม่นิยมให้โอนทางเคาน์เตอร์ธนาคาร เพราะคุณอาจมีการปรึกษาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือคนข้างเคียงได้

ข้อควรรู้

โดยปกติแล้ว หากท่านได้รับการแจกรางวัลจริงๆ ทางบริษัท จะติดต่อท่านมา พร้อมกับบอกให้ท่านนำเงินสด หรือแคชเชียร์เช็คมาชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% ตามมูลค่าของรางวัลที่ท่านได้รับ โดยรางวัลที่ท่านได้รับนั้น ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร

แน่นอนอยู่แล้ว ที่ท่านจะต้องเสียภาษี แต่จงจำไว้ว่า บริษัท จะให้ท่านนำมาชำระ ณ สถานที่ที่ท่านรับรางวัล และหากจะต้องมีการถ่ายรูป หรืออัดรายการ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานกับท่านเป็นกิจลักษณะมากกว่านี้ และหากบางบริษัทจำเป็นต้องให้ท่านชำระเงินภาษี ก็จะต้องเป็นการโอนเข้าบัญชีบริษัท มิใช่ในนามส่วนตัว และทำการส่งมอบทรัพย์สินแล้วเท่านั้น

คิดถึงหลักความจริงที่ว่า ท่านยังไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย ทำไมท่านจะต้องชำระภาษีก่อนละ ??

วิธีแก้ปัญหา
1. มีสติ ไตร่ตรอง ทบทวน
2. พยายามถามข้อมูลเขากลับ ตั้งข้อสงสัยให้มาก หรือขอชื่อ พร้อมเบอร์โทรติดต่อกลับ โดยอาจจะอ้างว่า ขณะนี้ยังไม่สะดวกจะพูดสาย แต่จะขอติดต่อกลับ
3. หากบอกให้โอนเงินทาง ATM ให้บุคคลธรรมดา ให้จั่วหัวไว้เลย ว่า มันมาหลอกเราแน่ๆ
4. หากไม่แน่ใจ หรืออยากลองลุ้นดู ให้ไปยังสถานที่ที่จะรับรางวัล หรือติดต่อกลับไปยังบริษัทที่เขาอ้าง(หาเบอร์ที่ถูกต้องนะคะ อย่าโทรเบอร์ที่เขาให้กลับมา)
5. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ยังไม่ทันได้รับ จะมาหักได้ไง
6. อย่าโลภ จนทำให้เสียทรัพย์

เรื่องแบบนี้ มีให้เห็นบ่อยๆ ฝากเตือนภัยกันต่อๆ ไปด้วยนะคะ

No comments:

Post a Comment